กองทุนช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์

กองทุนช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์
ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ .ศ. 2551 โดย มี วัตถุประสงค์เพื่อเป็นทุนใช้จ่าย สำหรับการป้องกัน และปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อช่วยเหลือผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ และให้การสนับสนุนโครงการเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของหน่วยงานภาครัฐและองค์กรเอกชนด้านการป้องกัน และปราบปรามการค้ามนุษย์
การให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ประกอบด้วย
1. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์ขอรับความช่วยเหลือจากกองทุน คือ เป็นผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยกองทุนให้ความช่วยเหลือในกรณีต่อไปนี้ คือการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์, การคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่ผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ และการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ในต่างประเทศให้เดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักรหรือถิ่นที่อยู่
2. การยื่นขอรับความช่วยเหลือ กรณีที่ผู้ยื่นคำขอมีภูมิลำเนา หรือถิ่นที่อยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นที่สำนักป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้าหญิงและเด็ก กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ส่วนกรณีที่ผู้ยื่นคำขอมีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ในเขตจังหวัดใด ให้ยื่นที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนั้นๆ
3. หลักฐานประกอบการยื่นขอรับความช่วยเหลือ ประกอบด้วย คำขอรับความช่วยเหลือตามแบบฟอร์มที่กำหนด , สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาทะเบียนบ้านในเขตจังหวัดที่ขอรับการช่วยเหลือ และหลักฐานประกอบอื่น ๆ เช่น ใบเสร็จรับเงิน เป็นต้น
4. ประเภทรายการที่สามารถให้ความช่วยเหลือ ประกอบด้วย
– ค่าใช้จ่ายในการครองชีพ
– ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล รวมถึงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าพาหนะ ค่าอาหารระหว่างติดต่อ รักษาพยาบาล
– ค่าใช้จ่ายในการบำบัดฟื้นฟูทางร่างกายและจิตใจ
– ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ในระหว่างที่ไม่สามารถประกอบการงานได้ตามปกติ
– ค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือเป็นเครื่องอุปโภคบริโภค
– ค่าใช้จ่ายในการจัดหาที่พัก
– ค่าใช้จ่ายในการศึกษาหรือฝึกอบรม
– ค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายหรือการดำเนินคดีเพื่อเรียกร้องค่าสินไหม ทดแทน หรือตามคำสั่งศาล
– ค่าใช้จ่ายในการส่งกลับไปยังประเทศเดิมหรือภูมิลำเนาของผู้เสียหาย
– ค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือผู้เสียหายในต่างประเทศให้เดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักร หรือถิ่นที่อยู่
– ค่าใช้จ่ายในกรณีอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการบริหารกองทุนอนุมัติเป็นการเฉพาะราย

กองทุนแรงงานไทยไปต่างประเทศ

กองทุนแรงงานไทยไปต่างประเทศ
กฎหมายกำหนดให้บริษัทจัดหางานจัดให้นายจ้างส่งเงินเข้ากองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศสำหรับคนหางานแต่ละคน กรณีที่นายจ้างไม่ส่งเงินกองทุนฯ บริษัทจัดหางานจะต้องจัดส่งเงินเข้ากองทุนฯ เอง ทั้งนี้เพื่อให้คนหางานที่ไปทำงานต่างประเทศได้รับการคุ้มครองจากกองทุนฯ สำหรับผู้ที่เดินทางไปทำงานโดยวิธีอื่น ก็สามารถสมัครเข้าสมาชิกกองทุนฯ ได้โดยจ่ายเงินเข้ากองทุนฯ ตามอัตราที่กฎหมายกำหนด คือ 300 บาท 400 บาท หรือ 500 บาท ขึ้นอยู่กับว่าจะเดินทางไปทำงานที่ประเทศอะไร

สิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจากกองทุนแรงงานไทยไปต่างประเทศ

1.สงเคราะห์ค่าใช้จ่ายการเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นค่าพาหนะ ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายอื่นที่จำเป็น กรณีถูกทอดทิ้งในต่างประเทศ ตามที่จ่ายจริง ภายในวงเงิน 30,000 บาท

2.สงเคราะห์เป็นค่าพาหนะ ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ กรณีประสบปัญหาในต่างประเทศ เช่น รอเข้าทำงานใหม่ รอส่งกลับประเทศไทย รอการดำเนินคดีหรือกรณีอื่น ในลักษณะเดียวกัน โดยจ่ายตามที่จ่ายจริงในวงเงิน 30,000 บาท

3.สงเคราะห์ค่ารักษาพยาบาล กรณีประสบอุบัติเหตุ หรือประสบอันตรายก่อนเดินทางไปทำงานต่างประเทศตามที่จ่ายจริงภายในวงเงิน 30,000 บาท

4.สงเคราะห์กรณีประสบอันตรายจนพิการหรือทุพพลภาพ ทั้งในและนอกประเทศ

– กรณีพิการ จ่าย 15,000 บาท

– กรณีทุพพลภาพ จ่าย 30,000 บาท

5.สงเคราะห์กรณีถูกส่งกลับเนื่องจากแพทย์ตรวจพบเป็นโรคต้องห้าม ดังนี้

– จ่าย 25,000 บาท สำหรับผู้ที่ถูกส่งกลับภายใน 6 เดือนแรก

– จ่าย 15,000 บาท สำหรับผู้ที่ส่งกลับหลัง 6 เดือนแรก แต่ยังไม่ครบสัญญาจ้าง

6.สงเคราะห์ค่าจ้างทนายความต่อสู้คดีอาญาในต่างประเทศในความผิด สิ่งมิใช่เกิดจากการกระทำโดยเจตนา ตามที่จ่ายจริงในวงเงิน 100,000 บาท

7.สงเคราะห์กรณีถึงแก่ความตายในต่างประเทศ ดังนี้

– สงเคราะห์ค่าจัดการศพในต่างประเทศหรือนำศพกลับประเทศ (กรณีไม่มีผู้รับผิดชอบ) ตามที่จ่ายจริงภายในวงเงิน 40,000 บาท

– สงเคราะห์บรรเทาความเดือดร้อนของทายาทผู้ตาย 3 กรณีดังนี้

  1. เสียชีวิตในต่างประเทศจ่ายศพละ 40,000 บาท
  2. เสียชีวิตขณะกลับมาพักผ่อนในประเทศไทยจ่ายศพละ 30,000 บาท
  3. ประสบอันตรายก่อนไปทำงานแล้วเสียชีวิตจ่ายศพละ 30,000 บาท

8.กรณีมีความจำเป็นและเร่งด่วนต้องสงเคราะห์แก่สมาชิกกองทุนฯ นอกเหนือ จากที่กำหนด ไว้นี้ อธิบดีมีอำนาจสั่งจ่ายเงินกองทุนฯ โดยความเห็นชอบของคณะกรรม การกองทุนฯ เพื่อสงเคราะห์ แก่สมาชิกผู้เดือดร้อนได้

กองทุนกู้เงินสำหรับผู้สูงอายุ

กองทุนผู้สูงอายุ เป็นแหล่งเงินกู้แบบไม่มีดอกเบี้ย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่อยู่ในความดูแลของรัฐบาล สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ โดยผู้สูงอายุสามารถยื่นเรื่องขอกู้ เพื่อไปทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งเพื่อส่วนบุคคลและส่วนรวม

จุดประสงค์ของกองทุนผู้สูงอายุ มีดังนี้

  1. เพื่อการประกอบอาชีพ(ประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการคุ้มครอง การส่งเสริมและสนับสนุนผู้สูงอายุในการประกอบอาชีพและฝึกอาชีพที่เหมาะสม เมื่อ 16 กันยายน 2547) สำหรับผู้สูงอายุที่ไม่สามารถกู้เงินจากธนาคารได้ หรือกู้ได้ไม่เต็มวงเงิน ก็สามารถกู้เงินจากกองทุนผู้สูงอายุได้เช่นกัน อีกทั้งเมื่อรวมเป็นกลุ่มแล้วยังสามารถกู้เพิ่มได้มากขึ้นด้วย
  2. เพื่อส่งเสริมหรือสนับสนุน ผู้สูงอายุจะได้รับบริการและการสนับสนุนเพื่อให้เกิดการพัฒนาตนเองและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม การรวมกลุ่มในลักษณะเครือข่ายหรือชุมชนจากหน่วยงานของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กิจกรรมสำหรับผู้สูงอายุ กู้เงินเพื่อจัดกิจกรรมเพื่อส่วนรวม  แต่กิจกรรมนั้นต้องมีความชัดเจนของโครงการหรือกิจกรรม การมีส่วนร่วมจากบุคคลทั้งภาครัฐและเอกชน สามารถขอกู้ในวงเงินตั้งแต่ 50,000-300,000 บาท
  3. เพื่อความช่วยเหลือนอกจาก เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ รายเดือน เดือนละ 600 บาทจากรัฐฯแล้ว หากผู้สูงอายุมีความเดือดร้อน และประสบปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย ก็สามารถขอรับความช่วยเหลือ จากกองทุนผู้สูงอายุได้ไม่เกิน 10,000 บาท เงินกู้สำหรับอาหารและเครื่องนุ่งห่ม รายละไม่เกิน 2,000 บาท

สำหรับผู้สูงอายุที่สนใจสามารถไปติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับสำนักงานพัฒนาสังคมประจำจังหวัดของตน หรือผู้สูงอายุที่มีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพฯ สามารถติดต่อได้ที่ สำนักส่งเสริมและพิทักษ์ผู้สูงอายุ สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพ และพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ

ในปัจจุบันนอกจากจะมีกองทุนเพื่อผู้สูงอายุแล้ว ยังมีหน่วยงานต่างๆที่ช่วยสนับสนุนอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการแพทย์ของกระทรวงสาธารณะสุขที่คอบให้ความสะดวกและรวดเร็วกับผู้สูงอายุเป็นกรณีพิเศษ โดยมีการจัดให้มีห้องแยกสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ ซึ่งแม้ว่าในทางปฏิบัติโรงพยาบาลส่วนใหญ่ในปัจจุบันยังมีข้อจำกัดเรื่องบุคลากรที่ไม่เพียงพอจึงทำให้ยังไม่สามารถดำเนินการดังกล่าวได้ แต่ในอนาคตเริ่มมีการแก้ไขปัญหานี้เพื่อให้ทั่วถึงยิ่งขึ้น

โครงการชุดนักเรียน และทุนการศึกษา เพื่อเด็กที่ขาดแคลน

fond-am.orgในปัจจุบันมีเด็กมากมายที่มีความประพฤติดี มีความขยันตั้งใจเรียน แต่กลับมีอุปสรรคในการขาดทุนการศึกษา ทำให้ไม่มีโอกาสเรียนหนังสือเหมือนเด็กคนอื่นๆ ทำให้มีหลายๆกองทุนร่วมกันจัดตั้งเพื่อบรรเทาความทุกข์ร้อนของพ่อแม่ ทางด้านผู้ปกครองเองควรให้เด็กตระหนักถึงการทำคุณความดี  สร้างความภาคภูมิใจในการเป็นนักเรียนเหมือนเด็กคนอื่นๆที่มีการศึกษา เสริมสร้างให้มีคุณธรรม จริยธรรมอันดี และสังคมไทยจะให้โอกาสแก่ผู้ทำความดีเสมอ

แม้ในปัจจุบันจะมีกองทุนการศึกษาต่างๆมากมาย แต่ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับเด็ก ผู้ปกครองยังมีภาระด้านอื่นๆอีก เช่น เสื้อผ้า อุปกรณ์การเรียน ค่าใช้จ่ายระหว่างเรียน เป็นต้น ทำให้นอกจากจะมีทุนการศึกษาแล้วยังครอบคลุมไปถึงการแบ่งปันอุปกรณ์การศึกษาทุกชนิด ชุดนักเรียน รองเท้านักเรียน ถุงเท้านักเรียน ตลอดจนค่าเทอม ค่าใช้จ่ายระหว่างเรียน สำหรับเด็กนักเรียน จะสามารถช่วยให้เด็กมีกำลังใจ  มอบความฝันและความหวังให้เด็กมีอนาคตที่ดีขึ้นได้

นอกจากทุนการศึกษาแล้ว เด็กๆหลายคนยังขาดชุดนักเรียน ต่างจากในเมืองใหญ่ที่ครอบครัวมีความพร้อมในเรื่องทุนทรัพย์  คงไม่แปลกที่เปิดเทอมแต่ละครั้งพวกเขาจะมาโรงเรียนในวันเปิดเทอมพร้อมกับชุดใหม่  รองเท้าถุงเท้าคู่ใหม่  กระเป๋านักเรียนใบใหม่ แต่เด็กๆที่อาศัยอยู่ตามชนบทกับแตกต่างยิ่งนัก พวกเขามีแค่ชุดนักเรียนตัวเก่าที่แทบจะขาด มีเพียงเท้าเปล่า กระเป๋านักเรียนก็ทำจากกระสอบปุ๋ย ที่ผ่านมามีเด็กหลายคนไม่ได้ไปโรงเรียน เพราะพ่อแม่ไม่มีเงินซื้อชุดให้ ทำให้เกิดโครงการ สร้างความภาคภูมิใจในการเป็นนักเรียนเหมือนเด็กคนอื่นๆ  เพื่อเปิดโอกาสให้ได้ร่วมกันแบ่งปันน้ำใจให้กับเด็กๆในชนบท  เสื้อผ้าชุดนักเรียนที่ใช้แล้วยังเกิดประโยชน์มากมายกับเด็กๆนั่นคือ โครงการชุดนักเรียนเพื่อน้องที่ขาดแคลนได้เรียนหนังสือโดยโครงการนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะมอบชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน และอุปกรณ์กีฬา อีกทั้งโรงเรียนได้ดำเนินกิจกรรมตระเวนมอบชุดนักเรียนให้แก่เด็ก ๆ ตามโรงเรียนต่าง ๆโดยปีนี้ทางกองทุนเสื้อผ้ามือสองได้ตั้งเป้าหมายที่จะมอบชุดนักเรียนมือสอง  อุปกรณ์การเรียน  สมุด  ดินสอ  และอุปกรณ์กีฬา  ตามโรงเรียนต่าง ๆ

โครงการต่างๆของมูลนิธิ

โครงการรณรงค์แก้ไขภาวะโลกร้อน แม้ไทยจะเป็นประเทศเล็กๆ แต่ก็ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ปมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้นพวกเราต้องร่วมลดภาวะโลกร้อนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มูลนิธิฯ ดำเนินงานแบบการมีส่วนร่วมของสาธารณชนในการช่วยกันแก้ไขปัญหาโลกร้อน ผ่านการรณรงค์ในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะการสร้างศูนย์ข้อมูลบนเว็บไซต์ วิจัยสภาวะสิ่งแวดล้อม และส่งเสิมการปลูกป่าทั่วประเทศ

โครงการกองทุนฉุกเฉินช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ โครงการกองทุนฉุกเฉินเพื่อผู้ประสบภัยธรรมชาติ ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติอย่างเร่งด่วน เพื่อลดความสูญเสียในด้านต่างๆ และเพื่อแก้ปัญหาในระยะยาวจึงมีการรณรงค์เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับภัย ธรรมชาติแก่สาธารณชน และร่วมกับองค์กรอื่นๆ และชุมชนในการซักซ้อมเมื่อเกิดภัยธรรมชาติ และค้นคว้าสาเหตุ เพื่อป้องกันชีวิตของมนุษย์ต่อภัยธรรมชาติในรูปแบบอื่นๆ ในอนาคต

โครงการห่มผ้าให้น้อง มุ่งในการสนับสนุนเครื่องนุ่มห่ม ยารักษาโรค ที่อยู่อาศัย และส่งเสริมอุปกรณ์การเรียนให้แก่ชุมชนห่างไกล และด้อยโอกาส ซึ่งได้มีการสำรวจความต้องการของชุมชนที่เห้นว่าขาดแคลนและต้องการปัจจัยต่างๆ ทั้งนี้ซึ่งได้ดำเนินงานร่วมกับชุมชนรวมถึงการสร้างความมั่นคงในชีวิต โดยการส่งเสริมอาชีพที่ใช้ทรัพยากรท้องถิ่นเป็นสำคัญ มูลนิธิฯ ได้ดำเนินโครงการในชุมชนกว่า 20 ชุมชนในพื้นที่เขตภาคเหนือ เพื่อต้านภัยหนาว รวมไปถึงการปลุกจิตสำนึกให้ชุมชนร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม

โครงการห้องสมุดสีเขียวเพื่อน้อง “ปัจจุบันคนไทยอ่านหนังสือ 7 บรรทัดต่อปีเท่านั้น” จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติปี 2547
เพื่อมุ่งที่จะสร้างหรือปรับปรุงห้องสมุดในโรงเรียนที่ห่างไกลและขาดแคลนอย่างหนัก โดย ทำงานร่วมกับ พร้อมทั้งนำกระบวนการกิจกรรมที่จะกระตุ้นให้เกิดนิสัยรักการอ่าน และสร้างแกนนำโดยการทำงานร่วมกับชุมชนเพื่อให้ชุมชนสามารถจัดการบริหารห้องสมุดของตนเอง ได้อย่างยั่งยืน และสิ่งสำคัญคือการให้ชุมชนร่วมกันลงแรงสร้างห้องสมุดเพื่อให้เป็นห้องสมุดของชุมชน เพื่อชุมชน โดยชุมชน

โครงการอนุรักษ์พะยูน มูลนิธิฯ ร่วมกับองค์กรชุนชนและหน่วยงานต่างๆ ในการหาแนวทางในการอนุรักษ์พะยูนโดยให้ชุมชนเป็นกำลังหลัก โดย อีกทางยังจัดเวทีพะยูนสัญจรไปตามโรงเรียนต่างๆ เพื่อสอนเรื่องสิ่งแวดล้อมศึกษา ความสำคัญของระบบนิเวศน์ และปลุกจิตสำนึกให้ร่วมอนุรักษ์พะยูน รวมถึงจัดทำสื่อรณรงค์ต่างๆ

โครงการอาสาสมัครสีขียว อาสาสมัครสีเขียวคือ การรวบรวมกลุ่มคนที่มีใจรักสิ่งแวดล้อม ห่วงใยโลก ร่วมกันเดินทางศึกษาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ชุมชน ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากมนุษย์ ทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมทั้งแลกเปลี่ยนความรู้ในวิชาแขนงต่างๆ ให้แก่เด็กๆ ในชุมชนห่างไกล เพื่อสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีจิตใจสัมพันธ์กับธรรมชาติ และพร้อมจะดูแลธรรมชาติดุจดั่งบ้านของตนเอง