จุดมุ่งหมายของมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี

การละเมิดสิทธิของเด็กและสตรี เป็นปัญหาที่สำคัญและหยั่งรากลึกในสังคมไทย ผู้ที่ด้อยโอกาสมักจะได้รับการกดขี่ข่มเหงจากผู้ที่มีอำนาจมากกว่าอยู่เสมอ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของเราทุกคนในการช่วยกันสอดส่องดูแลเพื่อไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบ การทำร้าย การทารุณกรรม เกิดขึ้นในหมู่ของสตรีและเด็ก ซึ่งถือได้ว่าเป็นกลุ่มคนที่อ่อนแอในสังคม มูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี เป็นมูลนิธิที่จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือเด็กและสตรีที่ด้อยโอกาสโดยไม่หวังผลกำไร โดยมีนางปวีณา หงสกุล เป็นทั้งผู้ก่อตั้งและประธานของมูลนิธิ ฯ เริ่มก่อตั้งมูลนิธิฯ ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2542 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ช่วยเหลือเด็กและสตรีที่ถูกละเมิดสิทธิ และถูกทารุณกรรมในรูปแบบต่างๆ ตลอดจนการฟื้นฟูด้านร่างกายและจิตใจ และดำเนินการเรื่อยมา

จุดมุ่งหมายของมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ที่ตั้งขึ้นมานั้นจะทำในกรณีที่ได้รับการร้องขอหรือร้องเรียนให้เข้าไปช่วย ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปช่วยเหลือแล้วนั้นมูลนิธิฯจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย จะทำก็ต่อเมื่อเข้ามาร้องขอให้เข้าไปช่วย ไม่ว่าจะเป็นกรณีเด็กถูกข่มขืน โดนทารุณกรรม ถูกละเมิดสิทธิ ใช้แรงงานเด็กผิดกฎหมาย กรณีต่างๆเหล่านี้ เมื่อมูลนิธิฯได้รับการร้องทุกข์แล้วขั้นตอนต่อไปก็คือการเชิญเจ้าทุกข์เข้ามาที่มูลนิธิเพื่อให้ข้อมูล ถ้าเห็นว่ามีน้ำหนัก ก็จะส่งชุดเฉพาะกิจของมูลนิธิฯเข้าไปสืบก่อนล่วงหน้าว่าเป็นจริงที่ตามได้รับการร้องเรียนมาหรือไม่

มูลนิธินี้เป็นเพียงมูลนิธิเล็กๆที่ก่อตั้งโดยคุณปวีณา หงสกุลโดยคุณปวีณาบอกว่าสาเหตุที่ก่อให้เกิดมูลนิธินี้ก็เพราะว่าเมื่อครั้งที่คุณปวีณาได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสมัยแรกได้มีโอกาสไปเยี่ยมบ้านเกร็ดตระการ ซึ่งเป็นสถานที่ราชการรับเด็กและสตรีที่ถูกหลอกไปค้าประเวณีมาอบรมและฟื้นฟูจิตใจ เมื่อคุณปวีณาได้เห็นเด็กและผู้หญิงเหล่านั้นแล้วก็เกิดความสะเทือนใจเพราะด้วยตัวเธอเองก็มีลูกสาวเหมือนกัน และไม่คิดมาก่อนว่าชีวิตของคนเราจะถูกกระทำได้ขนาดนี้ จากนั้นเป็นต้นมาเธอก็เดินหน้าในงานช่วยเหลือเด็กและสตรีที่ถูกละเมิดสิทธิ ถูกทารุณกรรม ถูกเอารัดเอาเปรียบ โดยในเวลาต่อมาก็ได้จัดตั้งมูลนิธินี้ขึ้นมาโดยมีมิตรสหายและผู้มีอุปการคุณเป็นผู้สนับสนุน ในการทำงานของมูลนิธินั้นจะเข้าไปช่วยเหลือในกรณีที่มีการร้องเรียน ร้องขอเข้ามาเท่านั้น

การตั้งมูลนิธิกองทุนสำหรับช่วยเหลือคนอื่น

มูลนิธิ หมายถึงองค์กรเอกชนที่ทำกิจกรรมใดก็ตามเพื่อวัตถุประสงค์ อันเป็นประโยชน์สาธารณะแก่ส่วนรวม เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร หรือ หากำไรเพื่อพออยู่ได้ เพียงพอที่จะทำกิจกรรมอันเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม หรืออาจหมายถึง

มูลนิธิได้แก่ ทรัพย์สินที่จัดสรรไว้โดยเฉพาะสำหรับวัตถุประสงค์ เพื่อการกุศล สาธารณะ การศาสนา ศิลปะ วิทยาศาตร์ วรรณคดี การศึกษา หรือเพื่อสาธารณประโยชน์อื่น โดยมิได้มุ่งหาผลประโยชน์มาแบ่งปันกัน และได้จดทะเบียนตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

สังคมไทยในปัจจุบันมีปัญหาจำนวนมากที่รอคอยการแก้ไข แม้ว่าได้มีหน่วยงานที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือสังคมในด้านต่างๆ หน่วยงานเหล่านี้ต้องใช้บุคคลากรจำนวนมากในการดำเนินการเพื่อให้การแก้ปัญหาในสังคมนั้นสำเร็จ แต่เนื่องด้วยขอบเขตและความต้องการความช่วยเหลือกว้างขวาง จึงทำให้หน่วยงานและบุคคลากรในการดำเนินโครงการเพื่อช่วยเหลือสังคมยังไม่เพียงพอ

ในขณะเดียวกันยังมีคนในสังคมไทยอีกจำนวนไม่น้อย ที่มีใจปรารถนาช่วยเหลือสังคม มีน้ำใจที่ดีงามในการช่วยเหลือผู้อื่น อาจมีทรัพย์ไม่มากนักในการช่วยเหลือแต่มีเวลา ความรู้ความสามารถและมีใจอาสา เพียงแต่ขาดโอกาสและช่องทางในการแสดงออกอย่างเพียงพอ ไม่รู้ว่าจะแบ่งปันน้ำใจที่ดีงามในการช่วยเหลือผู้อื่นของเขาได้ด้วยวิธีการใดและให้กับหน่วยงานใด

มูลนิธิพัฒนาก่อกำเนิดขึ้นจากความรัก ความเมตตา และจิตอันเป็นกุศลของผู้มีจิตศรัทธาในงานช่วยเหลือเด็กและเยาวชนผู้ด้อย โอกาส ร่วมกับ สำนักส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยต้องการให้เด็กและเยาวชนที่ด้อยโอกาสแต่มีจิตใจเข้มแข็ง ไม่ยอมแพ้พ่ายต่อชีวิตที่ยากลำบากได้รับการสนับสนุนในด้านเงินทุนประกอบ อาชีพเสริมทักษะ และมีรายได้เพิ่มพูน นอกเหนือจาก การเรียนตามปกติเป็นการช่วยตัวเอง และครอบครัวอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่ง เด็กและเยาวชนที่ขอรับทุนอาจเสนอขอเงินทุนประกอบอาชีพเป็นรายบุคคลหรือ ร่วมเสนอขอเป็นรายกลุ่มก็ได้ การได้รับเงินทุนสนับสนุนย่อมนำมาซึ่งทักษะในการประกอบอาชีพ และรายได้เพิ่มเติมในการช่วยเหลือเป็นทุนการศึกษาอีกส่วนหนึ่งด้วย ที่สำคัญที่สุดก็คือ เด็ก และเยาวชน ผู้รับทุนย่อมมีกำลังใจในการยืนหยัดต่อสู้ชีวิตต่อไป เมื่อรู้ว่ายังมีผู้ใจบุญให้การสนับสนุนอยู่

หากท่านเป็นผู้หนึ่งที่มีจิตอันเป็นกุศล และประสงค์ที่จะช่วยสนับสนุนงานของมูลนิธิ ขอได้โปรดติดต่อขอบริจาคหรือเผื่อแผ่ความสุขของท่านเพียงไม่มากนัก แต่ยิ่งใหญ่มากในความรู้สึกของเด็กและเยาวชนผู้ด้อยโอกาสที่ มูลนิธิกองทุนเยาวชนพัฒนา

การช่วยเหลือทางกองทุนสำหรับชุมชนเพื่อความมั่นคง

สังคมไทยมีพื้นฐานวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันแบบช่วยเหลือเกื้อกูลกันมายาวนาน  มีสวัสดิการแบบธรรมชาติที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเอื้ออาทร เคารพซึ่งกันและกันระหว่างคนกับคน และคนกับธรรมชาติ เมื่อสังคมเปลี่ยนแปลงไปบทบาทของชุมชนในการดูแลกันและกันก็ลดลง  แต่หลังจากสังคมไทยประสบภาวะวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้นำชุมชน ส่วนหนึ่งได้ร่วมกันปรึกษาหารือเพื่อร่วมกันฟื้นฟูระบบคุณค่าเดิม ทุนทางสังคมที่มีอยู่มาช่วยเหลือเกื้อกูลกันในลักษณะของการจัดสวัสดิการจากฐานทุนด้านต่าง ๆที่มีอยู่ของชุมชน เช่น สวัสดิการจากฐานกลุ่มออมทรัพย์  องค์กรการเงิน  วิสาหกิจชุมชน ความเชื่อทางศาสนา การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ฯลฯ ในปี 2548 ขบวนองค์กรชุมชนที่ทำงานเกี่ยวกับองค์กรการเงินและสวัสดิการชุมชนได้ยกระดับกองทุนสวัสดิการโดยการริเริ่มจัดตั้งกองทุนสวัสดิการระดับตำบล โดยให้มีการสมทบงบประมาณจากสามฝ่ายคือ ทุนจากการออมสมทบของสมาชิกในชุมชน ทั้งในรูปแบบออมทรัพย์เดิม  หรือสัจจะลดรายจ่ายวันละบาท การสมทบจากรัฐบาลกลางและการสมทบจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตั้งแต่ปี 2553 ปัจจุบันมีกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบล/เมืองทั่วประเทศ 5,500 กองทุน สมาชิกรวม 3.41 ล้านคน

สวัสดิการชุมชนคือ การสร้างหลักประกันเพื่อความมั่นคงของคนในชุมชน ซึ่งหมายรวมถึงทุกอย่างที่จะทำให้คนในชุมชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งในรูปของสิ่งของ เงินทุน น้ำใจ การช่วยเหลือเกื้อกูล เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตตั้งแต่ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นระบบการช่วยเหลือเกื้อกูลของคนในท้องถิ่น ที่มีรูปแบบและวิธีการที่หลากหลาย เป็นเรื่องราวเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย ก่อให้เกิดรายได้ลดรายจ่าย นำไปสู่การแก้ไขปัญหาความยากจนความเข้าใจความเชื่อมั่นในแนวคิดอุดมการณ์สวัสดิการชุมชน ทีเน้นเรื่องการพึ่งตนเองและช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ตามแนวคิด ให้อย่างมีคุณค่า รับอย่างมีศักดิ์ศรีให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงทุนภายในจัดสวัสดิการที่สอดคล้องกับวิถีชีวิต และปัญหาความต้องการของชุมชน ทั้งสวัสดิการที่ใช้เงินกองทุนและสวัสดิการที่เป็นการดูแลช่วยเหลือกันโดยไม่ต้องใช้เงินจำนวนสมาชิก สมาชิกที่เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอจนครอบคลุมประชากรทั้งตำบล  กระจายทุกช่วงวัย  เพราะยิ่งมีสมาชิกมาก เงินสมทบจะมีมาก ความเสี่ยงในการที่จ่ายเงินสวัสดิการจะยิ่งน้อยลงเพราะมีการกระจายความเสี่ยงออกไปมากขึ้นกองทุนที่มีสมาชิกน้อยจะมีความเสี่ยงมากกว่ากองทุนที่มีสมาชิกมากมีความมั่นคงทางการเงิน เพราะสมาชิกจ่ายเงินสมทบครบถ้วน สม่ำเสมอ  มีการสนับสนุนจากหน่วยงานอื่นๆ มีรายรับจากแหล่งอื่นๆของกองทุนอย่างต่อเนื่อง  สัดส่วนการจ่ายสวัสดิการให้สมาชิกและค่าใช้บริหารจัดการสัมพันธ์กับรายรับ  เน้นการพึ่งพาทุนภายในชุมชนท้องถิ่นเป็นสำคัญการบริหารจัดการเปิดเผยโปร่งใส ระบบบัญชีการเงินถูกต้องทันเวลาและสมาชิกมีส่วนร่วมในการดำเนินการ  เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ผลการดำเนินงานสู่สมาชิก  หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสาธารณะอย่างต่อเนื่อง

การพัฒนากองทุนหมู่บ้านไปสู่สถาบันการเงินสำหรับชุมชน


การพัฒนากองทุนหมู่บ้านไปสู่สถาบันการเงินสำหรับชุมชนเป็นการดำเนินงานของกองทุนหมู่บ้านและสถาบันทางการเงินเพื่อการพัฒนากองทุนหมู่บ้านซึ่งการจัดตั้งกองทุนหมู่บ้านมีเจตนารมณ์เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนเพื่อให้ประชาชนนำไปใช้ในการพัฒนาอาชีพ การสร้างรายได้เพื่อลดค่าใช้จ่ายรวมทั้งการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจให้กับชุมชนอีกด้วย ซึ่งแนวทางการบริหารในการจัดตั้งกองทุนหมู่บ้านนั้นมีหลักการสำคัญเพื่อสร้างความพร้อมภายในชุมชนที่จะทำให้เกิประโยชน์ต่อชุมชนและสังคมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในชุมชนและเป็นแหล่งของการสร้างอาชีพรายได้ภายในครอบครัว
สำหรับปัญหาของการดำเนินงานกองทุนหมู่บ้านและสถาบันการเงินชุมชนส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาในด้านการบริหารจัดการภายในสถาบันการเงินชุมชนและกฎระเบียนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
1.ผู้นำ เช่น คณะกรรมการไม่มีความรู้ ความสามารถในด้านการจัดการเทคโนโลยี การใช้คอมพิวเตอร์ ขาดทักษะการประสานงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
2.ด้านสำนักงาน เนื่องจากการขาดอุปกรณ์สำนักงาน การจัดเก็บเอกสารไม่มีความชัดเจน
3.การบริหารจัดการ เช่น ขาดการประชาสัมพันธ์ การปรึกษาหารือและการช่วยเหลือจากสำนักงานกองทุนหมู่บ้าน
4.ด้านสมาชิก ซึ่งขาดวินัยทางการเงินของตนเอง
5.ด้านเงินทุน เนื่องจากขาดเงินทุนสำรองในการบริหารจัดการไม่มีระบบประกันความเสี่ยงด้านการเงิน
6.การส่งเสริมสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยสำนักงานกองทุนหมู่บ้านไม่มีเวลาให้คำแนะนำและติดตามการทำงานของกองทุน
7.ด้านกฎหมายและระเบียน อย่างเช่น ความไม่ชัดเจนของกฎหมายทำให้เกิดความไม่เข้าใจต่อกองทุนต่างๆ
ทั้งนี้แนวทางสำหรับการพัฒนากองทุนหมู่บ้านไปสู่สถาบันการเงินของชุมชนที่สำคัญคือ
1.ปัจจัยภายใน คือ ผู้นำ ซึ่งเป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์ในการบริหาร มีความซื่อสัตย์ เป็นที่ยอมรับของคนในชุมชน มีความรู้ความสามารถ และด้านการบริหารจัดการ โดยการมีบุคลากรสนับสนุนด้านบัญชี มีคอมพิวเตอร์เพื่อการจัดเก็บข้อมูลที่เป็นระบบ มีการประชุมในทุกๆเดือน และมีการตรวจสอบทั้งภายในและภายนอกรวมทั้งการมีกฎระเบียนที่ชัดเจน

2.ปัจจัยภายนอก คือ การสนับสนุนด้านการเงิน ให้ความรู้ด้านบัญชีและระบบคอมพิวเตอร์รวมทั้งการให้คำปรึกษาและการติดตามผลอย่างมีระบบ
จะเห็นได้ว่าการพัฒนาเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการพัฒนากองทุนและสถาบันทางการเงินที่ยั่งยืนนั้นควรจะมีการสร้างกลไกในการทำงานที่สามารถส่งเสริมโดยการจัดทำระเบียบ กติกาของกองทุน และควรจะต้องมีผู้บริหารและคณะกรรมการที่มีความรู้ ความสามารถในการบริหารจัดการ มีการแบ่งปันประโยชน์และการจัดสวัสดิการแก่ชุมชนด้วย เพราะหากมีการบริหารจัดการที่ดีก็จะทำให้กระบวนการขับเคลื่อนทางการเงินของชุมชนมีความยั่งยืนไปด้วย

การส่งเสริมและพัฒนากองทุนเพื่อสตรีอย่างเป็นระบบ

ปัญหาที่เกิดขึ้นต่อสตรีจำนวนมาก

ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัวการขาดโอกาสในสังคม ปัญหาการถูกเลือกปฏิบัติ และที่สำคัญโอกาสในการดึงศักยภาพของสตรีมีน้อย จึงต้องส่งเสริมและพัฒนาอีกมาก ดังนั้นกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจึงถูกจัดเป็นนโยบายของรัฐบาล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับและเสริมศักยภาพสตรีในทุกมิติ โดยนำศักยภาพและความแตกต่างระหว่างหญิงชาย ซึ่งนับว่าเป็นพลังสังคมอย่างหนึ่งที่ยังไม่ได้รับการพัฒนาอย่างเป็นระบบ ให้มีการนำมาใช้อย่างสร้างสรรค์ รวมทั้ง เพื่อพัฒนาและขยายศักยภาพบทบาทสตรีให้เป็นพลังทางสังคมที่เข้มแข็ง สามารถช่วยนำพาและร่วมสร้างสังคมไปสู่ความเสมอภาคอย่างสร้างสรรค์

การมีส่วนร่วมคิด ร่วมกันแก้ไขปัญหา และส่วนร่วมในการถกคิดปัญหาจากทุกภาคส่วนร่วมกัน ในการรับฟังข้อคิดเห็น เพื่อที่จะได้นำไปปรับปรุง และให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มสตรี เพื่อให้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีนั้นพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม มีแหล่งเงินทุนสำหรับการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดกิจกรรมในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาสตรี เป็นลักษณะของแหล่งเงินทุนที่จะเน้นกิจกรรมในการเสริมสร้างทั้งในส่วนของการแก้ไขปัญหาสตรี การรณรงค์ให้เข้าใจองค์กรสตรี เข้าใจผู้หญิงในทุกๆมิติ ในทุกเพศ และทุกวัย เป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะใช้กิจกรรมในการรณรงค์รวมถึงกิจกรรมในการส่งเสริมบทบาทหรือคุณภาพของสตรี

ยกระดับและเสริมศักยภาพสตรีในทุกมิติ

สร้างสังคมเสมอภาค สร้างสรรค์และสันติสุข โดยนำศักยภาพและความแตกต่างระหว่างหญิงชาย ซึ่งเป็นพลังสังคมอย่างหนึ่ง ที่ยังไม่ได้รับการพัฒนาอย่างเป็นระบบ ให้มีการนำมาใช้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาและขยายศักยภาพบทบาทสตรี ให้เป็นพลังทางสังคมที่เข้มแข็ง สามารถช่วยนำพา และร่วมสร้างสังคมไปสู่ความเสมอภาคอย่างสร้างสรรค์ และมีสันติสุข เพื่อให้โอกาสสตรีในทุกพื้นที่ ทุกชุมชน มีส่วนร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมพัฒนา โดยความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรสตรี ขับเคลื่อนกองทุนให้สตรีได้รับประโยชน์จากกองทุนนี้ในการมีส่วนร่วมพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

ปัจจุบันผู้หญิงเข้าไปมีส่วนในการทำงานและดำรงตำแหน่งสำคัญมากมาย ตั้งแต่เป็นนายกรัฐมนตรี ตลอดจนผู้บริหารระดับสูงหน่วยงานรัฐและบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ หรือแม้แต่การทำงานที่เมื่อก่อนมีแต่ผู้ชายเท่านั้นที่ทำได้ เช่น การขับรถส่งของรถเมล์ หรือแท็กซี่ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการทำงานเล็กๆน้อยๆอยู่กับบ้าน ซึ่งการมีคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีในระดับหมู่บ้าน เพื่อให้เม็ดเงินลงไปสู่กลุ่มเป้าหมายโดยตรงและควรเปิดกว้างให้ผู้หญิงทุกกลุ่มอาชีพสามารถเข้าถึงกองทุนดังกล่าวได้ เพื่อนำไปประกอบอาชีพและขยายกิจการของตนเองได้อย่างเท่าเทียมกันให้มากที่สุด โดยอาจจะเลือกพิจารณาสนับสนุนกลุ่มผู้หญิงที่ด้อยโอกาส หรือที่ยากจนที่สุดเป็นอันดับแรก